ความแตกต่างระหว่างตู้เย็นและตู้แช่แข็ง

        บางคนอาจเข้าใจว่าตู้แช่แข็งและตู้เย็นใช้แทนกันได้ แต่จริง ๆ แล้วตู้ทั้งสองแบบต่างกัน การมีตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งอาจมีประโยชน์กับคุณได้หลายประการ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเทคโนโลยีใดในสองเทคโนโลยีนี้จะเหมาะกับสถานการณ์ของคุณมากกว่ากัน ดังนั้น การทราบถึงความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีทั้งสองจะช่วยให้คุณจำกัดตัวเลือกและตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการได้

      บ้านหลายหลังมีตู้แช่แข็งและตู้เย็น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง ในกรณีส่วนใหญ่ ตู้เย็นและตู้แช่แข็งใช้เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็น และความแตกต่างหลักอยู่ที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคืออะไร ?

ตู้เย็นคืออะไร ?
    ตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ทำความเย็นที่มักใช้สำหรับการจัดเก็บและถนอมอาหาร ในกรณีส่วนใหญ่ ตู้เย็นมักประกอบด้วยสองส่วน ได้แก่ ส่วนแช่เย็นและช่องแช่แข็ง ช่องแช่แข็ง ออกแบบมาเพื่อเก็บอาหารแช่แข็ง ส่วนช่องแช่เย็นใช้เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารและเครื่องดื่มเน่าเสีย

ตู้แช่แข็งคืออะไร ?
    ตู้แช่แข็งแตกต่างจากตู้เย็นตรงที่ออกแบบมาเพื่อเก็บอาหารแช่แข็งให้แข็ง ตู้แช่แข็งจะทำงานที่อุณหภูมิต่ำกว่าตู้เย็นเพราะออกแบบมาเพื่อการจัดเก็บในระยะยาว เนื่องจากตู้แช่แข็งมีฟังก์ชันการเก็บรักษาที่ยาวนาน คุณสมบัติการเก็บความร้อนของตู้แช่แข็งจึงมักจะมากกว่าตู้เย็น

ความแตกต่างที่สำคัญ
    การตั้งค่าตู้เย็นและตู้แช่แข็งช่วยให้คุณปรับอุณหภูมิและการควบคุมอื่น ๆ ของอุปกรณ์ เพื่อรักษาอุณหภูมิที่ปลอดภัยสำหรับอาหารได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ไม่เหมือนกัน

    ตู้แช่แข็งจะตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียสเพื่อรักษาอุณหภูมิของอาหารให้ปลอดภัยสำหรับการรับประทานในภายหลัง ในทางกลับกัน ตู้เย็นต้องตั้งค่าไว้ที่ 4 ถึง 0 องศาเซลเซียสเพื่อถนอมอาหาร

1.อุณหภูมิ
    อุณหภูมิเป็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างตู้เย็นและตู้แช่แข็ง ช่วงอุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับตู้เย็นอยู่ระหว่าง 0-4 องศาเซลเซียส ในทางกลับกัน ตู้แช่แข็งต้องใช้อุณหภูมิที่ต่ำกว่ามากซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0 ถึง -18 องศาเพื่อเก็บอาหาร

2.ไฟฟ้า
    ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดนั้นขึ้นอยู่กับความถี่ในการเปิดและปิดประตู อย่างไรก็ตาม เราทราบกันดีว่าตู้เย็นมักจะเปิดและปิดบ่อยกว่าตู้แช่แข็ง เมื่อเปิดประตูตู้เย็น อากาศเย็นจะไหลออกมาด้านนอก ส่งผลให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้ต่ำลง ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น

     ตู้แช่แข็งมักจะมีประสิทธิภาพมากกว่าและกินไฟน้อยกว่า เนื่องจากไม่ได้เปิดและปิดบ่อยเท่าตู้เย็น

3.รูปทรงและรุ่น
    ตู้เย็นและตู้แช่แข็งแต่ละรุ่นมีรูปแบบและรูปร่างที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยปกติแล้วตู้เย็นจะมีประตูเดียว สองประตู สามประตู และสี่ประตู มีขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ตู้เย็นส่วนใหญ่มีช่องแช่แข็งขนาดเล็กในช่องบน หากคุณต้องการช่องแช่แข็งขนาดเล็ก ตู้เย็นมักเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

    อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการช่องแช่แข็งขนาดใหญ่กว่านั้น ควรพิจารณาเลือกตู้แช่แข็งแบบแยกส่วน ซึ่งมีรูปร่างและขนาดที่หลากหลาย

4.กลไกการทำงาน
    กลไกการทำงานพื้นฐานของตู้แช่แข็งคือการระเหย โดยจะมีท่อโลหะรูปลอนที่เรียกว่าท่อระบายความร้อนสอดเข้าไปในผนังของตู้แช่แข็ง ท่อระบายความร้อนจะมีของเหลวพิเศษที่สามารถระเหยได้ง่าย ท่อนี้เชื่อมต่อกับปั๊มที่ดูดไอจากท่อ ส่งผลให้ของเหลวจำนวนมากขึ้นกลายเป็นไอและทำให้ภายในตู้แช่แข็งเย็นลง

   ในขณะที่ตู้เย็นทำงานโดยการดันสารทำความเย็นที่เป็นของเหลวผ่านระบบปิด ซึ่งจะทำให้สารทำความเย็นกลายเป็นไอและดึงความร้อนออกจากตู้เย็น จากนั้นสารทำความเย็นที่กลายเป็นไอจะผ่านขดลวดด้านนอกตู้เย็น ได้รับความร้อน และเปลี่ยนกลับเป็นของเหลวอีกครั้ง ส่งผลให้เนื้อหาภายในตู้เย็นเย็นลง

    การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างตู้เย็นและตู้แช่แข็งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความสดและความปลอดภัยของอาหาร ตู้แช่แข็งทำหน้าที่เป็นตัวเลือกในการจัดเก็บในระยะยาว ในขณะที่ตู้เย็นมีไว้สำหรับการจัดเก็บชั่วคราว การใช้ทั้งสองอย่างอย่างชาญฉลาดและปฏิบัติตามแนวทางที่แนะนำจะช่วยลดขยะอาหารและเพลิดเพลินกับมื้ออาหารที่อร่อยและปลอดภัยทุกวัน

    หากคุณวางแผนที่จะลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน สามารถเข้ามาที่ สุโขทัยธงชัยวิทยุ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ ครบครัน แอร์ ตู้เย็น ซักผ้า มือถือ และไอที มีบริการจัดส่ง ติดตั้ง และบริการหลังการขาย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.thongchaivittayu.com/

ที่มาข้อมูล : https://www.lg.com/africa/blog/difference-between-refrigerator-and-freezer