ประเภทของเครื่องปั่น

12/09/2024

    ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาว เครื่องปั่นเป็นสิ่งที่ต้องมีในครัวทุกแห่ง ด้วยเครื่องปั่นที่มีหลายประเภท ขนาด และคุณสมบัติมากมาย การเลือกเครื่องปั่นที่ดีที่สุดจึงอาจเป็นเรื่องยาก เมื่อตัดสินใจว่าจะมองหาอะไรในเครื่องปั่น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเครื่องปั่นชนิดใดที่ตอบโจทย์เป้าหมายได้ดีที่สุด

     คุณอาจกำลังถามตัวเองว่าควรซื้อเครื่องปั่นแบบไหนดี ? สิ่งที่ต้องตั้งคำถามคือคุณมีพื้นที่เก็บเครื่องปั่นมากแค่ไหน สูตรอาหารที่วางแผนจะทำ และความถี่ในการใช้งาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อตัดสินใจว่าเครื่องปั่นแบบใดดีที่สุดสำหรับคุณ ต่อไปนี้จะอธิบายประเภทของเครื่องปั่นและการใช้งานเพื่อให้คุณเลือกซื้อเครื่องปั่นที่ดีที่สุด

เครื่องปั่นประเภทต่างๆ
     เครื่องปั่นมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ เครื่องปั่นตั้งโต๊ะ เครื่องปั่นจุ่ม และเครื่องปั่นแบบพกพา เครื่องปั่นตั้งโต๊ะเป็นเครื่องใช้ในครัวแบบคลาสสิกที่มีฐานมอเตอร์อยู่ใต้โถปั่น มีใบมีดอยู่ข้างใน เครื่องปั่นแบบพกพาเป็นเครื่องปั่นขนาดเล็กที่มักจะปั่นได้ครั้งละ 1-2 จาน และเครื่องปั่นแบบจุ่มเป็นเครื่องปั่นแบบถือด้วยมือมีใบมีดอยู่ที่ปลาย

แม้ว่าเครื่องปั่นจะมีขนาด การออกแบบ และคุณลักษณะที่แตกต่างกันมาก แต่ข้อมูลที่กล่าวถึงด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างทั่วไประหว่างเครื่องปั่น 3 ประเภทที่พบมากที่สุด

1. เครื่องปั่นแบบตั้งโต๊ะ
     เครื่องปั่นแบบที่หลายคนนึกถึงคือเครื่องปั่นแบบตั้งโต๊ะ ที่มีฐานเป็นมอเตอร์ เหยือกหรือโถใส และฝาปิด เครื่องปั่นประเภทนี้เป็นแบบที่คุณจะพบเห็นในบาร์ ร้านกาแฟ หรือร้านสมูทตี้ มีการตั้งค่าความเร็วของเครื่องปั่น หลายระดับ ที่ออกแบบมาสำหรับการผสม การปั่น การสับ และอื่น ๆ

เมื่อซื้อเครื่องปั่นตั้งโต๊ะ มีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณา ดังนี้

  • ขนาด เครื่องปั่นมีโถปั่นที่มีความจุต่างกัน โดยปกติจะบรรจุได้ระหว่าง 4 ถึง 8 ถ้วย หากคุณวางแผนที่จะปั่นในปริมาณมากขึ้น โปรดพิจารณาใช้รุ่นที่ใหญ่กว่า
  • พลัง กำลังของมอเตอร์ซึ่งมักอธิบายด้วยวัตต์ จะกำหนดว่ามอเตอร์สามารถส่งกำลังได้มากเพียงใด หากคุณต้องการลองปั่นสมูทตี้โดยใช้ผักที่มีกากใย เช่น คะน้า หรือทำเครื่องดื่มแช่แข็งอย่าลืมเลือกเครื่องปั่นที่มีกำลังแรงสูง

2. เครื่องปั่นแบบจุ่ม
    เครื่องปั่นจุ่มหรือที่เรียกอีกอย่างว่าเครื่องปั่นมือหรือเครื่องปั่นแบบแท่ง ช่วยให้คุณผสมส่วนผสมลงในชาม หม้อ หรือถ้วยที่คุณเลือกได้โดยตรง เครื่องปั่นประเภทนี้มีขนาดกะทัดรัดและจัดเก็บได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีห้องครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการพกพาเครื่องปั่นไปด้วย เนื่องจากเครื่องปั่นไม่มีโถที่มีความจุที่กำหนดไว้ คุณจึงสามารถปั่นส่วนผสมได้ครั้งละน้อยหรือมากก็ได้

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกเครื่องปั่นจุ่ม ได้แก่

  • จำนวนความเร็ว เครื่องปั่นมือถือมีความเร็วตั้งแต่ 2 ถึง 9 ระดับ โดยบางรุ่นมีความเร็วที่ปรับได้หลายระดับเพื่อให้คุณปั่นส่วนผสมต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นตั้งแต่การสับ ไปจนถึงการตีจนฟู ความเร็วในระดับนี้ช่วยให้ปั่นส่วนผสมที่แข็งให้เป็นเนื้อเนียนได้ นอกจากนี้ยังสามารถตีและเติมอากาศเพื่อให้ได้เนื้อเนียนและเบาได้อีกด้วย
  • ความยาวของแขนผสม เครื่องปั่นจุ่มสำหรับใช้ในบ้านส่วนใหญ่มีแขนปั่นขนาด 8 นิ้ว ซึ่งเหมาะสำหรับหม้อตั้งบนเตา ภาชนะขนาดเล็ก หรือหม้อตื้น หากคุณกำลังทำซุปหม้อใหญ่ แขนปั่นที่ยาวกว่า 12 นิ้วขึ้นไปจะช่วยให้คุณตักส่วนผสมถึงก้นหม้อได้ และช่วยให้มือและแขนอยู่ห่างจากความร้อนมากขึ้น

3. เครื่องปั่นแบบพกพา
     สำหรับผู้ที่รักสมูทตี้และต้องเดินทางตลอดเวลา เครื่องปั่นแบบพกพาอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แม้ว่าเครื่องปั่นเหล่านี้จะไม่ทรงพลังหรือใช้งานได้หลากหลายเท่าเครื่องปั่นทั่วไป แต่ก็เหมาะสำหรับทำโปรตีนเชค มิลค์เชคและส่วนผสมนุ่ม ๆ เช่น กล้วย ผลไม้สด และโยเกิร์ต เครื่องปั่นแบบพกพาออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารเช้าแบบเหลวหรือเครื่องดื่มปั่นเพื่อเพิ่มความสดชื่นในช่วงบ่าย

     ไม่น่าแปลกใจเลยที่เครื่องปั่นได้กลายมาเป็นสิ่งสำคัญในครัวเรือน เครื่องปั่นเหล่านี้เต็มไปด้วยพลังและความทนทาน ทำให้คุณสามารถคั้นน้ำผลไม้และผักทั้งลูก ปั่นซุปร้อน ทำน้ำสลัดและบดได้ โดยทั้งหมดนี้ทำได้เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น หากคุณวางแผนที่จะลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน สามารถเข้ามาที่ สุโขทัยธงชัยวิทยุ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ ครบครัน แอร์ ตู้เย็น ซักผ้า มือถือ และไอที มีบริการจัดส่ง ติดตั้ง และบริการหลังการขาย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.thongchaivittayu.com/blenders-juicers/

ที่มาข้อมูล : https://www.kitchenaid.com/pinch-of-help/countertop-appliances/how-to-choose-a-blender.html